Loading...
ข่าว

โบท็อกซ์คืออะไร จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราฉีดมากเกินไป

ในปัจจุบันเราคงปฎิเสธไม่ได้ว่า ความสวยความงามนับเป็นเรื่องที่สำคัญของสาว ๆ ทั้งในแง่ของการเสริมสร้างความมั่นใจ การเสริมสร้างบุคลิกภาพ รวมถึงการเพิ่มความพึงพอใจในรูปลักษณ์ของตัวเอง
แต่ด้วยวิถีชีวิตที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบ ทำให้หลายคนจำเป็นต้องมองหาเทคโนโลยี และ
“โบท็อกซ์” คือหนึ่งในคำตอบนั้น

วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกันว่า
โบท็อกซ์ คืออะไร และจะมีผลอย่างไรหากเราฉีดมากเกินไป

“โบท็อกซ์”
เป็นชื่อทางการค้าของสาร “โบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ” (Botulinum toxin A) ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่สร้างจากเชื้อแบคทีเรีย ชื่อ คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium botulinum) โดยสามารถใช้ฉีดได้หลายตำแหน่ง
แต่ส่วนใหญ่ที่นิยมคือ ใช้ลดริ้วรอย ลดกรามและปรับหน้าเรียว และช่วยฟื้นฟูผิว

การฉีดโบท็อกซ์ จะเกิดผลเฉพาะกล้ามเนื้อมัดที่ได้รับการฉีด โดยเห็นผลสูงสุดใน 1-2 สัปดาห์ และมีฤทธิ์อยู่ได้นาน 4-6 เดือน หลังจากนั้นกล้ามเนื้อจะค่อย ๆ กลับมาหดตัวได้เหมือนเดิม 

Portrait of beautiful young woman getting botox cosmetic injection in her face.

นอกเหนือจากการใช้ลดริ้วรอย ลดกรามแล้ว โบท็อกซ์ยังสามารถนำมาใช้ในการรักษาในจุดอื่นๆได้อีกด้วย เช่น

  1. รักษาภาวะความผิดปกติที่เกิดจากการทำงานมากเกินของกล้ามเนื้อ เช่น ตาเข(Strabismus) หนังตากระตุก (Blepharospasm) กล้ามเนื้อคอเกร็งตัว (Cervical dystonia)
  2. รักษาการปวดศีรษะแบบไมเกรน (Migraine) หรือ การปวดศีรษะจากความเครียด (Tension)
  3. รักษาภาวะกล้ามเนื้อหลังอักเสบเรื้อรัง(Myofascial pain)
  4. รักษาภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ(Hyperhidrosis)

แม้ว่าการฉีดโบท็อกซ์จะช่วยให้เห็นผลดีในด้านต่าง ๆ แล้ว แต่รู้หรือไม่ว่า…
ถ้าเราฉีดมากเกินไป อาจส่งผลให้เกิดอาการที่เรียกว่า “ดื้อโบท็อกซ์”

“ดื้อโบท็อกซ์” หมายถึง
การฉีดโบท็อกซ์แล้วไม่เห็นผลลัพธ์

มีสาเหตุมาจากโปรตีนในสารโบท็อกซ์นั้นมีหลายชนิด เมื่อฉีดเข้าร่างกายไปแล้ว ร่างกายของผู้เข้ารับบริการบางรายจะสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาเพื่อต่อต้านสารโปรตีนดังกล่าว ทำให้การออกฤทธิ์ของสารโบท็อกซ์ไม่เห็นผลเท่าที่ต้องการ 
โดยมีปัจจัยที่ทำให้เกิดการดื้อโบท็อกซ์ ได้แก่

  1. ใช้โบท็อกซ์ในปริมาณสูงเกินไป
  2. การฉีดโบท็อกซ์ที่ถี่เกินไป

ดังนั้น ผู้เข้ารับบริการจึงควรฉีดโบท็อกซ์ในปริมาณที่น้อยที่สุด และไม่ควรฉีดเกินปริมาณสูงสุดที่กำหนดให้ฉีดได้ นอกจากนี้การฉีดแต่ละครั้งยังควรห่างกันมากกว่า 12 สัปดาห์

วิธีแก้ไขเมื่อเกิดอาการดื้อโบท็อกซ์

ใช้วิธีฉีดสารโปรตีนเพิ่มขึ้น อาจเป็นวิธีที่ช่วยได้ แต่ทางแก้ที่ถูกต้องและปลอดภัยที่สุดคือ ให้เว้นระยะเวลาการฉีดออกไปก่อน เพื่อให้ร่างกายได้สลายสารสกัดโปรตีนออกให้หมด ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ปีแล้วค่อยกลับมาฉีดใหม่