Loading...
ข่าว

กลิ่น “ผายลม” บอกโรคได้จริงหรือ ?

การ “ผายลม หรือ ตด” ในชีวิตประจำวันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่หลายคนอาจข้องใจว่า ใน 1 วันเราตดบ่อยแค่ไหนถึงจะเรียกว่าปกติ? แบบไหนถึงเรียกว่าผิดปกติ? จำนวนครั้งมีผลหรือไม่? แล้วตดดัง มีกลิ่นเหม็นถือเป็นสัญญาณอันตรายกับสุขภาพหรือไม่?

การผายลมหรือตด ถือเป็นกระบวนการทางธรรมชาติของร่างกายในการขับลม เป็นผลมาจากการกลืนลมเวลาที่เรากลืนอาหาร กลืนน้ำลาย หรือจากการระบายแก๊สผ่านลำไส้ใหญ่ที่เกิดจากการย่อยอาหาร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอาหารที่รับประทาน และสุขนิสัยการขับถ่าย ตราบใดที่ไม่มีอาการแน่นท้องก็ถือว่าปกติ

อาหารที่ทานมีผลต่อกลิ่นตดแตกต่างกัน

หากเรารับประทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว ชีส กระหล่ำปลี หัวหอม หรือเครื่องดื่มแอลกฮอล์ จะทำให้เรามีกลิ่นตดแตกต่างกันออกไปดังนี้
ตดไร้กลิ่น เกิดจากการได้รับโปรตีนน้อย, ตดมีกลิ่น เกิดจากการทานอาหารและผักที่มีกลิ่นแรง และตดมีกลิ่นฉุนแรงเกิดจากลำไล้มีการติดเชื้อแบคทีเรีย

ความถี่ของ "ตด"

หากผู้ที่มีร่างกายอุดมสมบูรณ์และแข็งแรง จะตดประมาณ 14-23 ครั้งต่อวัน แต่ถ้าเรา ตดมากกว่า 23 ครั้งภายใน 1 วันจึงถือว่า “ผิดปกติ” เราสามารถวัดระดับความถี่ได้ดังนี้ ตดน้อยกว่า 10 ครั้งต่อวัน เสี่ยงโรคลำไส้อุดตัน, ตด 10-20 ครั้งต่อวันถือว่าปกติ และตดมากกว่า 20 ครั้งต่อวันเสี่ยงต่อการเป็นโรคทางเดินอาหาร

ดังนั้นเราควรสังเกตจำนวนครั้งที่ตนเองตดในแต่ละวัน หากรู้สึกถึงความผิดปกติไปจากเดิม ควรลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เพื่อให้จำนวนแก๊สในร่างกายลดลง หรือปรึกษานักโภชนาการ แพทย์ ว่าอาหารประเภทใดบ้างที่ไม่ทำให้ตดมากเกินไป