ช่วงนี้เริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 กันแล้ว เราต้องสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และเตรียมตัวให้พร้อมก่อนรับวัคซีนฯ เพื่อลดความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย
วันนี้เราจะมาให้ความรู้เรื่องนี้กัน
📌 ควรศึกษาข้อมูลก่อนไปฉีควัคซีนฯ
ควรรู้ว่าวัคซีนฯช่วยป้องกันไม่ให้ป่วยหนักหากติดเชื้อ ฉีดแล้วยังติดเชื้อและแพร่เชื้อได้ การสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือยังจำเป็น เพราะอาจมีคนรอบข้างเราที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนฯ
📌 ถ้ามีโรคประจำตัว ต้องแจ้งก่อนฉีด
- ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ อัมพฤต และอัมพาต ไม่ควรหยุดยาเพื่อฉีดวัคซีนฯ
ยกเว้นกรณีที่แพทย์แนะนำให้หยุดยาชั่วคราว เพื่อให้ผลลัพธ์ของวัคซีนมีความแม่นยำ
- ผู้ที่เป็นโรคเลือดออกได้ง่าย ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนเข้ารับการฉีดวัคซีนฯ เพราะอาจต้องใช้เวลากดแผลบริเวณที่ฉีดให้นานขึ้น
เช่น จาก 5 นาทีเป็น 15 นาที หรือนานกว่านั้น แหละหากหลังฉีดวัคซีน มีอาการห้อเลือดหรือจ้ำเลือดขึ้น ควรรีบพบแพทย์
** ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว หากมีอาการของโรคกำเริบ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนหรือไม่ก็ตาม ให้รีบมาปรึกษาแพทย์ทันที **
📌 คอยสังเกตอาการหลังฉีด
เพื่อเฝ้าสังเกตอาการแพ้ หากมีอาการรุนแรง จะได้รับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที
กรณีที่มีผลข้างเคียงหลังการฉีดวัคซีน เช่น ปวดแขน บวมบริเวณที่ฉีด มีไข้ต่ำๆ ปวดเมื่อตัว หรืออ่อนเพลีย สาเหตุอาจเป็นเพราะร่างกายกำลังตอบสนองต่อวัคซีนฯ
กรณีที่มีไข้สูงเกิน 38 องศา ปวดเมื่อยมาก ควรรับประทานยาพาราเซตามอล อย่างน้อย 1 เม็ด และให้หลีกเลี่ยงยาแก้ปวดชนิดแรง เช่น ยาแอสไพริน ซึ่งอาจไปกดระบบตอบสนองของร่างกาย ทำให้วัคซีนฯ ตอบสนองได้น้อยลง
ช่วงนี้ต้องดูแลและป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัด ควรหมั่นสังเกตอาการตัวเอง งดไปพื่นที่เสี่ยงเพื่อยับยั้งการแพร่เชื้อไปสู่คนรอบข้าง
หากใครที่ต้องเตรียมไปฉีดวัคซีนฯ อย่าลืมศึกษาข้อมูลและประเมินสุขภาพตัวเองก่อนไปฉีดกันด้วยนะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย