ในช่วงนี้หลาย ๆ บริษัทให้พนักงาน Work From Home หรือ ทำงานอยู่ที่บ้าน เพื่อช่วยบรรเทาความเสี่ยงจากสถานกาณ์ไวรัสโควิด-19
“ค่าไฟฟ้าในบ้าน” คงเป็นหนึ่งในเรื่องที่กังวล ซึ่งแน่นอนว่าการนั่งทำงานอยู่ที่บ้านทั้งวันทั้งคืน สิ่งที่ต้องเจอคือ ค่าไฟสูงขึ้น ทั้งจากอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ แอร์ และพัดลม
วันนี้เลยอยากมาแชร์วิธีการประหยัดไฟบ้าน สำหรับชาว Work From Home กัน จะมีวิธีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
1. เปิดหน้าต่างรับลมและแสงธรรมชาติ
เปิดหน้าต่าง เปิดม่าน ให้ลมกับแสงธรรมชาติเข้ามา แล้วนั่งทำงานในมุมที่แสงสว่างเข้าถึงเพียงพอ ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่จะช่วยให้คุณประหยัดไฟในบ้านได้
2. เลือกใช้หลอดไฟ LED
การเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED แสงสว่างจะเท่าเดิม แต่ประหยัดไฟได้มากกว่าเดิม ทั้งหลอดไส้และหลอดฟลูออเรสเซนต์ แถมยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วยนะ
3. เปิดไฟเฉพาะจุดที่นั่งทำงาน
หากแสงสว่างไม่เพียงพอต่อการทำงาน สามารถเปิดไฟเพิ่มได้ แต่ควรเปิดไฟบริเวณที่นั่งทำงาน และเปิดอย่างเพียงพอเท่านั้น ไม่ควรเปิดทั้งบ้าน สามารถช่วยประหยัดค่าไฟได้
4.ตั้ง Sleep Mode ในแล็ปท็อป หรือคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค
ตั้งค่าหน้าจอไม่ให้สว่างเกินไป และตั้ง Sleep Mode เอาไว้เสมอ เมื่อไม่ได้ใช้งานหน้าจอก็จะปิดอัตโนมัติ วิธีนี้ก็ช่วยประหยัดไฟได้
5. ถอดปลั๊กเมื่อไม่ใช้งาน
การปิดสวิตซ์เครื่องใช้ไฟฟ้าจะยังคงมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านอยู่ ดังนั้นเมื่อไม่ใช้งานแล้วควรดึงปลั๊กออกเพื่อตัดกระแสไฟฟ้า ซึ่งสามารถช่วยประหยัดไฟแถมยังปลอดภัยอีกด้วย
6. ปรับอุณหภูมิแอร์ให้เหมาะสม
หากร้อนจนจำเป็นต้องเปิดแอร์ ควรปรับอุณหภูมิแอร์ให้เหมาะสม หลายบ้านตั้งไว้ที่ 25 องศาเซลเซียส แต่รู้หรือไม่ว่า ปรับขึ้น 1 องศา เป็น 26 องศา ก็สามารถช่วยให้ประหยัดไฟได้เพิ่มขึ้น 10% เลย
หรืออีกเทคนิคคือ เปิดทั้งพัดลมและแอร์ โดยปรับอุณหภูมิแอร์อยู่ที่ 27-30องศา ก็ช่วยให้อุณหภูมิของห้องลดลงได้ และแอร์จะไม่ทำงานหนักเกินไป
ถือว่าเป็นทริคเล็ก ๆ ที่มาแชร์ให้เพื่อน ๆ ได้นำไปใช้เพื่อช่วยลดค่าไฟฟ้าในบ้านกัน ลองนำไปใช้ดูนะ