Loading...
ข่าว

ซื้อเครื่องฟอกอากาศอย่างไร ให้ได้ค่า CADR ที่เหมาะสม

ทุกวันนี้โลกของเรายังคงเผชิญกับปัญหา “ฝุ่น PM 2.5  ควันเสียจากท่อรถยนต์  การปล่อยของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม” ทำให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มองไม่เห็น และมีค่าเกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ ส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยตรง จนทำให้ใครหลายคนเป็นโรคภูมิแพ้โดยไม่รู้ตัว 

“เครื่องฟอกอากาศ” จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการตอบโจทย์สำหรับคนรักสุขภาพมากขึ้น แล้วรู้หรือไม่? การเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่ดีต้องคำนึงถึงค่า CADR ด้วย !!! วันนี้เราจึงมีคำแนะนำในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศอย่างไรให้เหมาะกับบ้านและอากาศที่แย่ลงทุกๆ วัน โดยคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปมาฝากกัน

เครื่องฟอกอากาศ  Air Purifier หรือ Air Cleaner เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยกำจัดฝุ่น หรือสิ่งแปลกปลอมในอากาศ ไม่ว่าจะเป็นแบคทีเรีย เชื้อไวรัส กลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ จึงเหมาะสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้ สำหรับการทำงาน คือ ดูดอากาศเข้าตัวเครื่องและผ่านตัวกรองให้ดักจับสิ่งแปลกปลอมในอากาศ อากาศที่ออกมาจึงมีความบริสุทธิ์และสะอาด 

แล้วทำไมต้องอิงกับค่า CADR ด้วยล่ะ?

CADR หรือ Clear Air Delivery Rate คือ อัตราการส่งผ่านอากาศบริสุทธิ์ เป็นค่าที่บอกประสิทธิภาพการฟอกอากาศที่แท้จริง โดยได้ทดสอบกับควัน, ควันบุหรี่ และเกสรดอกไม้ ยิ่งค่า CADR มากเท่าไหร่อากาศที่ถูกเปลี่ยนก็จะดีได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ค่า CADR มีหน่วยเป็น CFM (Cubic Feet per Minute) ซึ่งสามารถเปรียบเทียบดูประสิทธิภาพของเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมกับเราได้

วิธีวัดปริมาณค่า CADR ที่เหมาะสมกับขนาดห้อง ควรมีมากกว่า 2 ใน 3 ของพื้นที่ห้อง คำนวนจาก เอาพื้นที่ห้องเป็นหน่วยตารางฟุต (1 ตร.ม. = 10.764 ฟุต) หารด้วย 1.5 คือค่า CADR ที่เหมาะสม กลับกันถ้าอยากทราบว่าค่า CADR ของเครื่องฟอกที่มีอยู่เหมาะกับพื้นที่ขนาดไหน คูณ 1.5 ก็จะได้พื้นที่ห้องเป็นหน่วยตารางฟุตที่เหมาะสมนั่นเอง

สรุปคือ เครื่องฟอกอากาศเครื่องใดที่มีค่า CADR สูงกว่า ย่อมมีประสิทธิภาพในการฟอกอากาศที่สูงกว่านั่นเอง เพียงเท่านี้เราก็สามารถคิดคำนวนหาค่า CADR ก่อนการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว