เคยสังเกตไหม เวลาตื่นนอนส่องกระจก เอ๊ะ!…ทำไมหน้าเราถึงมีรอยยับ รอยนั้นได้แต่ใดมา??? สาเหตุอาจมาจากท่านอนที่เคยชินในทุกๆ คืนของคุณ และแน่นอนอาจส่งผลกระทบต่อการเกิดริ้วรอยบนใบหน้าของเราได้
วันนี้เรามีเคล็ด (ไม่) ลับ สำหรับท่านอนที่เหมาะสม เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วหน้าไม่ยับ ไม่เป็นรอย มาฝากกัน…
“นอนตะแคง”
เป็นท่าที่นอนสบาย ตามความถนัด บางคนชอบนอนตะแคงซ้าย-ตะแคงขวา และยังชอบเอาหน้าไปซุก ทับ บีบ อัดกับหมอนโดยไม่รู้ตัว จากความชอบนี้เองอาจก่อให้เกิดริ้วรอยบนหน้าตามมาได้
ทางที่ดีเราควรนอนตะแคงขวาเพื่อให้ร่างกายไม่กดทับหัวใจให้เลือดสูบฉีดได้อย่างไม่ติดขัด หากเลี่ยงไม่ได้แนะนำให้จัดปลอกหมอนโดยการดึงให้ตึง อย่าให้มีรอยพับ รอยย่น ก็จะสามารถแก้ปัญหานี้ได้
“นอนหงาย”
ท่านี้ *เหมาะสำหรับบการนอนมากที่สุด* เพราะใบหน้าของเราจะไม่ถูกสัมผัสกับปลอกหมอนโดยตรง ไม่ถูกกดทับให้มีริ้วรอย มีรอยย่น และไม่เป็นสิว เหมาะสำหรับคนแพ้ง่าย
ข้อควรระวัง!!! ท่านี้ไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคปอดและโรคหัวใจเพราะจะทำให้หายใจไม่สะดวก
“นอนคว่ำ”
ท่านี้เป็นท่านอนที่ทำร้ายผิวมากที่สุด เพราะจะทำให้ใบหน้าของเราไปสัมผัสกับหมอนโดยตรง ทำให้หน้ายับเมื่อตื่นขึ้นมา เพราะทุกอย่างของร่างกายจะถูกกดทับด้วยน้ำหนักตัวของเรา และครีมที่ทาไว้อาจเปื้อนติดหมอนได้ หากนอนท่านี้เป็นเวลานานๆ อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ อาทิ ปวดแขน ขา หลัง ต้นคอ เป็นต้น
การ “นอนหงาย” จึงเป็นท่านอนที่เหมาะสมที่สุด นอกจากจะไม่ทำร้ายผิวหน้าจนทำให้เกิดริ้วรอยแล้ว ยังทำให้หายใจสะดวก หลับสบายตลอดทั้งคืน ตื่นขึ้นมาแล้วสวย รู้สึกสดชื่นทั้งใบหน้าและร่างกายอย่างแน่นอน
เรื่องของความสะอาดก็สำคัญ ต้องหมั่นทำความสะอาดผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่มอยู่เป็นประจำ เพื่อสุขภาพการนอนที่ดีของทุกคน