จากนโยบายของภาครัฐ ทำให้การทำงานที่บ้าน หรือ Work From Home เพื่อหยุดเชื้อ งดเดินทางนั้น 🚕 อาจนำมาซึ่งผลเสียต่อคนวัยทำงานอย่างเราได้ เพราะต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบหรือสถานที่ในการทำงานใหม่ อีกทั้งอุปกรณ์สำนักงานในบ้านอาจมีไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ไม่เหมาะกับสรีระ หรือการนั่งทำงานนานๆ อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของเราได้เช่นกัน
แต่หารู้ไม่ … “การนั่งทำงานเป็นเวลานานๆ เกิน 1 ชั่วโมง” ⏰ โดยไม่ลุกขึ้นมาเปลี่ยนอิริยาบถท่าทาง ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหลัง คอ ไหล่ ก้นกบ สะโพก ขา 🦶 เกิดอาการเกร็งและเป็นตะคริว อาจรามไปถึงข้อต่อ เส้นเอ็น และอวัยวะภายใน ส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยตามมา จากพฤติกรรมข้างต้นสามารถก่อให้เกิดโรคอะไรได้บ้าง❓ และมีวิธีที่จะช่วยบรรเทาอย่างไร❓ ถ้าพร้อมแล้วตามไปดูกันเลย 👉👉👉
“เสี่ยงสมองเสื่อม”
การนั่งอยู่กับที่เป็นระยะเวลานานๆ 🪑 ไม่ลุกขึ้นมาขยับตัว ยืดเส้นยืดสาย อาจส่งผลเสียทำให้มีอาการเหมือนคนที่เป็นโรคสมองเสื่อมได้ และยังมีโรคอื่นๆ ตามมา อาทิ หลอดเลือดสมอง ความดันโลหิตสูง รวมถึงคอเลสเตอรอลในเลือดสูง เป็นต้น
“ทำให้ไม่มีสมาธิ”
การนั่งทำงานเป็นเวลานานๆ และไม่ยอมลุกออกจากเก้าอี้ ทำให้ไปขัดขวางการไหลเวียนของเลือด และทำให้สมอง 🧠 ได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ 👎 ส่งผลให้สมองเกิดอาการตื้อ หงุดหงิด และไม่สามารถจดจ่อต่อสิ่งที่กำลังทำอยู่ได้
“ทำให้อ้วน”
การนั่งนานๆ อยู่กับที่ไม่ว่าจะเป็นตอนดูทีวี 🖥 เล่นอินเทอร์เน็ต 💻 หรือนั่งเล่นเกม 🕹 จะทำให้คุณมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นได้ เพราะคุณไม่ได้ขยับตัวเลย แถมยังมีขนมนมเนยอยู่ข้างตัวอีกต่างหาก ทางที่ดีควรลุกขึ้นเดินหรือทำกิจกรรมอย่างอื่นบ้าง เพื่อให้ร่างกายได้เปลี่ยนท่าทางในระหว่างวัน
“มีอาการปวดคอ”
เกิดจากการนั่งมองคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ หรือการนั่งที่ผิดวิธี สายตาไม่ได้อยู่ในจุดที่พอดีกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจทำให้กระดูกสันหลังมีปัญหาตามมาได้
“เกิดอาการปวดหลังช่วงล่าง”
เริ่มแรกอาจมีอาการเพียงเล็กน้อย หากเราละเลยไม่เลือกที่จะใส่ใจอาจส่งผลเสียในระยะยาวได้ เพราะ การจัดท่านั่งที่ไม่ดี 🧘♀ ไม่ถูกต้อง ❌ สามารถทำให้เกิดปัญหากับกระดูกสันหลังได้ และอาจนำมาซึ่งอาการบาดเจ็บบริเวณหลังเพราะมีแรงกดทับที่หลังส่วนล่างทำให้กล้ามเนื้อและข้อต่อโดยรอบเกิดอาการตึงตัวได้
สำหรับวิธีบรรเทาอาการ ทำตามได้ง่ายๆ คือ ขยับร่างกายให้มากขึ้น ไม่นั่งนานติดกันหลายชั่วโมง ⏰ โดยทุกๆ 30 นาที ให้เปลี่ยนอิริยาบทด้วยการลุกขึ้นยืน 8 นาที 🚶♀ และเดินไปรอบ ๆ สัก 2 นาที นอกจากนี้ ก็ควรพยายามขยับร่างกายในแต่ละวันให้มากขึ้นด้วย เช่น เดินขึ้นลงบันไดแทนการใช้ลิฟต์ หรือเวลาคุยโทรศัพท์ 📱 ให้ยืนคุยหรือเดินคุยแทน และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ควรพยายามหาเวลาออกกำลังกายให้มากขึ้น เพื่อที่จะทำให้ร่างกายมีความแข็งแรงในทุกๆ ส่วน เป็นต้น