“โรคร่าเริง”
..แต่ไม่ร่าเริงตามชื่อ..
ชื่อโรคนี้เกิดจากพฤติกรรมของคน โดยเฉพาะพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ที่มักเคยชินกับการใช้ชีวิตตอนกลางคืน บางคนทำงานดึก ๆ หามรุ่งหามค่ำ เพราะเงียบและสมองไหลลื่น หรือบางคนเล่นเกมส์ เล่นโซเชียล เที่ยวกลางคืน แต่พอตอนกลางวันร่างกายกลับง่วงนอน อ่อนเพลีย ไม่มีสมาธิ คิดอะไรไม่ออก
นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชีวิตตอนกลางวันของคุณ “พัง” วงจรชีวิตจะค่อย ๆ เริ่มเปลี่ยนไป ไหนลองมาเช็คพร้อมกันว่า คุณกำลังเสี่ยงเป็นโรคนี้อยู่หรือเปล่า
- ตื่นเช้าไม่ค่อยไหว
- ลำไส้มีการทำงานที่ผิดเพี้ยนไป
- โกรทฮอร์โมนไม่หลั่ง เผาผลาญน้อยลง อยากของหวาน
- กลางคืนหลับไม่สนิท กลางวันง่วงนอน
- กลายเป็นคนติดกาแฟไปโดยอัตโนมัติ
ถ้าปล่อยไปแบบนี้ในระยะยาว อาจมีผลให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมาได้โดยไม่รู้ตัว
ดังนั้นวันนี้เรามีวิธีแนะนำที่จะช่วยให้คุณจัดเวลาชีวิตใหม่ เพื่อป้องกันร่างกายเสื่อมโทรม
v
v
- ตั้งนาฬิกาปลุกเวลาเดิม ๆ ทุก ๆ วัน เพื่อสร้างความเคยชิน
- หลีกเลี่ยงแป้ง น้ำตาล เพิ่มเนื้อสัตว์ในมื้อกลางวัน เพราะแป้งและน้ำตาลนั้นเป็นตัวกระตุ้นให้สมองหลั่งสาร เซโรโทนิน มากเกินไปซึ่งทำให้ง่วงนอน
- ออกกำลังกายแบบง่าย ๆ เช่น การเดิน การแกว่งแขน หรือออกกำลังกายอย่างจริงจังทุกวัน
- ฟังเพลงระหว่างวัน เพื่อเพิ่มความตื่นตัว แก้ง่วง
- จิบน้ำเปล่า เพราะน้ำเป็นตัวลดความหนืดของเลือด ทำให้ไม่ง่วงนอน
- นำผลมะกรูด คลึงกับพื้นมาวางไว้ข้างหมอน ทำให้หลับสบาย ตื่นมาแล้วสดชื่นกระปรี้กระเปร่า
วงจรชีวิตของคนปกติทั่วไป ต้องตื่นกลางวัน และนอนหลับกลางคืน..
อย่าให้วงจรชีวิตผิดเพี้ยนไป จนไม่มีเวลาดูแลสุขภาพตัวเอง ควรป้องกันไม่ให้ร่างกายเสื่อมโทรม