Loading...
ข่าว

วิ่งแล้วคัน!!! เกิดจากไขมันแตกตัวจริงหรือ?

สำหรับใครที่ชอบออกกำลังกายโดยเฉพาะ “การวิ่ง” 🏃‍♂ แล้วล่ะก็ คงเคยรู้สึกถึงอาการคันยิบๆ ตามร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นลำตัว แขน ขา ช่วงเอว แผ่นหลัง ต้นขา หรือสะโพก ให้ความรู้สึกเหมือนมดกัด 🐜 หลายคนมักเข้าใจว่าอาการคันที่เกิดขึ้นมาจาก “ไขมันในร่างกายเกิดการแตกตัว”  แต่สิ่งที่คิดนั้นจะใช่เหตุผลที่ถูกต้องหรือไม่❓ และคำตอบจริงๆ เป็นอย่างไร❓ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเรามาหาคำตอบไปพร้อมกัน 👉

การออกกำลังกายโดยเฉพาะการวิ่ง ทั้งที่ไม่เคยทำมาก่อนหรือนานๆ ออกกำลังกายที จะทำให้หลอดเลือดเกิดการขยายตัว ทำให้บริเวณที่เส้นเลือดไปเลี้ยงเกิดอาการบวมเป็นผื่นแดง แต่อาการที่เห็นได้ชัดคือ อาการคันยิบๆ ตามร่างกาย นั่นก็เป็นเพราะปฏิกิริยาของเส้นใยประสาทที่มีโปรตีนชนิดหนึ่งถูกหลั่งออกมาตามเนื้อเยื่อของผิวหนังที่เรียกว่า “อีสตามีน (Histamine)” 

“ฮีสตามีน (Histamine)” ทำหน้าที่อะไร?

เมื่อร่างกายสัมผัสบางอย่างและมีอาการแพ้ ฮีสตามีนจะทำหน้าที่โดยการ หลั่งสารออกมาเพื่อเพิ่มการขยายของหลอดเลือดอย่างปัจจุบันทันด่วน เพื่อร่างกายจะได้เพิ่มอัตราการไหลเวียนของโลหิตไปยังเนื้อเยื่อที่บาดเจ็บ หรือมีอาการติดเชื้อเพื่อลำเลียงระบบคุ้มกันที่อยู่ในเลือดให้เข้าไปจัดการเนื้อเยื่อบริเวณที่มีปัญหาได้โดยเร็ว จากการทำปฏิกิริยานี้เอง ส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงตามมานั่นก็คือ มีอาการคันยุบยิบเวลาวิ่ง 🏃‍♀ นั่นเอง

ส่วนใหญ่…มักเกิดกับกลุ่มคน👫ที่ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ แต่อาการคันดังกล่าวจะค่อยๆ หายไปเอง เมื่อมีการออกกำลังกายเป็นประจำ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เส้นประสาทมีความไวต่อฮีสตามีนน้อยลงและคุ้นชินกับการออกกำลังกายได้มากขึ้น 🥅 ⛹ 

อย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายด้วยการวิ่ง 🏃‍♀ เป็นประจำ แต่ยังคงมีอาการคันอยู่แสดงว่าอาจเกิดมาจากสาเหตุอื่น เช่น ความอับชื้นของเหงื่อในร่างกายที่ทำปฎิกิริยากับเสื้อผ้าที่ใช้ออกกำลังกายที่อาจระบายอากาศได้ไม่ดีพอ เสื้อผ้า 👕 ที่ไม่สะอาดมีสารตกค้างจากผงซักฟอก 🧼 ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง เป็นต้น ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้มาจากการที่ไขมันแตกตัวอย่างที่หลายคนคิด เพราะกว่าไขมันจะค่อยๆ สลายตัวไปนั้น ต้องใช้เวลาร่วมกันหลายเดือน ดังนั้นอาการคันที่เรารู้สึกขณะออกกำลังกายจึงไม่เกี่ยวข้องกับการที่ไขมันแตกตัวแต่อย่างใด