Loading...
ข่าว

ปวดประจำเดือนเป็นประจำ ใครว่าเป็นเรื่องปกติ !!

“การปวดประจำเดือน”
มักเป็นปัญหาที่กวนใจผู้หญิงส่วนใหญ่ หลายคนเข้าใจว่า การปวดประจำเดือนเป็นเรื่องปกติ แต่จริง ๆ แล้ว การปวดเป็นประจำ แม้จะปวดไม่มาก หรือปวดแบบรุนแรงทุกเดือน นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายที่จะตามมา

อาการปวดประจำเดือน
มีสาเหตุมาจากการบีบตัวของมดลูก ในช่วงที่มีประจำเดือน เยื่อบุมดลูกจะผลิตสารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ซึ่งจะเข้าไปกระตุ้นให้มดลูกมีการบีบตัวมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วง 1-2 วันแรกของการมีประจำเดือน การปวดประจำเดือนมีอยู่ 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ

1.ปวดแบบไม่เป็นโรค

จะมีอาการปวด 1-2 วันแรกของรอบเดือนเท่านั้น สามารถทนอาการปวดได้โดยไม่ต้องรับประทานยา ยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ลักษณะเช่นนี้เกิดจากการรัดตัวของกล้ามเนื้อมดลูก เพื่อไม่ให้รอบเดือนมามากจนทำให้เกิดภาวะตกเลือด

2.ปวดแบบเป็นโรค

จะมีอาการปวดมากจนต้องรับประทานยา ในบางรายมีอาการปวดท้องหลายวันก่อนมีประจำเดือน ปวดมากขึ้นเมื่อมีประจำเดือน และอาจปวดต่อเนื่องไปหลังจากประจำเดือนหมดแล้ว อาการเช่นนี้สามารถสันนิฐานได้หลายโรค ได้แก่

  • เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือช็อกโกแลตซีสต์ ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อย
  • เนื้องอกมดลูก
  • ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ในตัวมดลูก
  • ความผิดปกติแต่กำเนิดของช่องทางคลอด หรือปากมดลูก
  • ภาวการณ์ติดเชื้ออักเสบในอุ้งเชิงกราน

หากมีอาการปวดประจำเดือน สามารถดูแลรักษาด้วยตัวเองโดย

  1. ใช้กระเป๋าน้ำร้อนประคบท้องน้อยและหลัง
  2. อาบน้ำอุ่น
  3. พักผ่อนให้เพียงพอ
  4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  5. รับประทานยาแก้ปวดเมื่อมีอาการปวดที่รุนแรง

แต่ถ้าหากว่ามีอาการปวดประจำเดือนรุนแรงมากขึ้น รับประทานยาแล้วไม่หาย มีไข้ เลือดไหลออกมามากกว่าปกติ ปวดท้องน้อยแม้ไม่ได้มีประจำเดือน สีเลือดประจำเดือนเริ่มเปลี่ยนไปจากปกติ ตกขาวมีกลิ่น ควรรีบไปพบแพทย์ เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงโรคร้ายแรง

แม้ว่าอาการปวดประจำเดือนจะเกิดได้หลายสาเหตุ แต่สาว ๆ ก็ ควรสำรวจอาการปวดท้องประจำเดือนของตัวเอง ว่ามีภาวะเสี่ยงของโรคร้ายหรือไม่ หากสงสัยว่าตัวเองมีอาการปวดแบบเป็นโรค ควรรีบไปพบหมอเพื่อรักษาให้ทันการ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโล